简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Bitkub ให้ความเห็นเกี่ยวกับกฎใหม่จาก กลต.
บทคัดย่อ:ตลาด Crypto Currency เป็นตลาดการลงทุนของคนตัวเล็ก ตลาดของคนที่จะลืมตาอ้างปาก คนที่มีเงินเดือนน้อย คนที่เอาเงินน้อยมาลงทุน เพื่อมาแลกเงินเยอะ คนที่จะมีเงินหลักหมื่นก็กลายเป็นเงินหลักล้านได้ภายใน 1-2 ปี
ผมพูดมาตลอดตั้งแต่ปี 2017 ว่า ตลาด Crypto Currency เป็นตลาดการลงทุนของคนตัวเล็ก ตลาดของคนที่จะลืมตาอ้างปาก คนที่มีเงินเดือนน้อย คนที่เอาเงินน้อยมาลงทุน เพื่อมาแลกเงินเยอะ คนที่จะมีเงินหลักหมื่นก็กลายเป็นเงินหลักล้านได้ภายใน 1-2 ปี

ตลาดที่คุณอดออม มื้อ Buffet ของคุณซัก 1 มื้อ เพื่อมาลงทุน เพื่อที่จะได้กินอีก 10 มื้อ ตลาดที่คุณจะได้ลงทุนกับนักลงทุนทั่วโลก เป็นตลาดที่คุณจะได้ไปเอากำไรจากคนต่างประเทศ ตลาดที่เป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ คนที่รู้เรื่องด้าน Technology คนที่เชื่อในการเปลี่ยนโลกของเทคโลยี Blockchain
ปกติแล้วผมเองก็ไม่ค่อยจะมาเขียนอะไรยาวๆ แบบนี้หรอกครับ นานๆ จะเขียนที เพราะไม่ค่อยมีเวลา แต่ วันนี้มี Hearing ออกมาจากทางสำนักงาน ก.ล.ต.ซึ่งผมคิดว่าคงจะต้องขอออกมาให้ความคิดเห็นกันบน Public ซักหน่อย
จุดประสงค์ของ Hearing หลักการเป็นสำคัญคือการคุ้มครองนักลงทุนจากความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ลงทุน ซึ่งผมถือเป็นเรื่องดีและเห็นด้วยเป็นอย่างมากกับจุดประสงค์
แต่ผมอาจจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่ทาง ก.ล.ต. จะนำมาปรับใช้ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาหลายด้านที่ผมค่อนข้างกังวลเป็นอย่างมาก

ผมเชื่อว่าทาง ก.ล.ต. กำลังคิดว่ากฏเกณฑ์ในครั้งนี้กำลังจะช่วยปิดกั้นโอกาสไม่ให้นักลงทุนที่มีรายได้น้อยกว่า 1 ล้านบาท มาลงทุน และจะช่วยทำให้เป็นการปกป้องความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันจะไม่ได้ช่วยลดจำนวนคนที่จะเข้ามา หรือลดปัญหาความเสี่ยงลงเลย เพราะโลก internet หรือโลก Social สมัยนี้มันไม่ต้องไปคอยหา
แต่มันจะมาคอยป้อนถึงที่ ซึ่งจะมี exchange ต่างประเทศ ทั้ง Scam และไม่ Scam สามารถฝากถอนเงินบาท ซื้อผ่านระบบ P2P ได้โดยง่าย มีทั้งแชร์ลูกโซ่คริปโต หลอกลงทุน ICO ผลตอบแทนสูง ให้ Yield สูง สร้างเหรียญ scam บน exchange scam โดยโฆษณาผ่าน Facebook ผ่าน Youtube มีสอนวิธีการใช้งาน สอน วิธีการเทรด มากมาย

มันกำลังจะยิ่ง ผลักให้นักลงทุนกลุ่มเหล่านี้ ไปเสี่ยงกับแหล่งการลงทุนใหม่ที่ไม่ได้ถูกต้องตามกฏหมาย ไปเทรดไปเสี่ยงกันเอาเองตามมีตามเกิด เกิดปัญหาตามมามากขึ้น และเพิ่มปัญหาเพิ่มงานให้กับหน่วยงานอื่นๆ เช่น DSI หรือตำรวจในการฟ้องร้องดำเนินคดี
หากเมื่อ ก.ล.ต ได้ผลักกลุ่มคนเหล่านี้ออกไป ซึ่งจะทำให้ตลาด black market คึกคัก เพราะมี volume มากเพียงพอ ในการให้มิจฉาชีพในการทำสิ่งไม่ดีต่างๆ อยู่ในตลาดมืด ตลาดนอกกฏหมาย ตลาดที่ควบคุมไม่ได้ เกิดปัญหาฟอกเงิน ช่องทางอาชญากรรมลักทรัพย์ ลักพาตัว การไปหลอกขายสินค้า ให้คนอื่นโอนเงินแล้วมารับ bitcoin แทน ไม่สามารถตรวจสอบได้อีกต่อไป
ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้จะกระทบกับผู้ประกอบการณ์ในไทยอย่างแน่นอน

Bitkub ในฐานะ ผู้ประกอบการณ์ในไทย ที่ได้ License ของกระทรวงการคลัง และ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมที่จะเป็นผู้ที่จะให้ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนกับนักลงทุน และเลือกเหรียญที่มีคุณภาพมาให้กับนักลงทุนได้ซื้อขายลงทุน แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า เราจะไม่สามารถช่วยเหลือ หรือให้บริการ กลุ่มบุคคลที่มีรายได้ไม่ถึง 1 ล้านบาทต่อปี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพวกเค้ากำลังจะไปเผชิญกับอะไร กำลังจะออกนอกระบบ หรือจะถูกหลอกให้ไปลงทุนในสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่

ผมเสียดายเหลือเกินครับ ประเทศไทยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้งในอดีต ที่รัฐไทยไม่ค่อยให้การสนับสนุนบริษัท Tech startup ไทยเท่าที่ควร เราอยากมี Tech Giant แต่เปิดอ้ารับต่างชาติ ส่วน Tech ไทยก็ต้องสู้โดยที่มีข้อจำกัดต่างๆ มากมาย วันนี้พวกเรา Bitkub มีความฝัน มีความหวังที่จะเป็นบริษัท Unicorn ตัวแรกๆ ของประเทศนี้ Exchange เป็นแค่จุดเริ่มต้นแรกที่พวกเราจะทำ ยังมีอีกหลายอย่างที่พวกเราจะต้องทำเพื่อประเทศนี้ และเพื่อคนไทย พวกเราจะไม่ท้อไม่หยุดจนกว่าจะสำเร็จครับ

คุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex แนะนำอยู่หรือไม่ ถ้าใช้ให้ดาวน์โหลดแอพ WikiFX เพื่อตรวจสอบโบรกเกอร์หรือดูการจัดอันดับ โบรกเกอร์ Forex เพราะแอพ WikiFX ได้ตรวจสอบโบรกเกอร์และคัดสรรมาให้หมดแล้ว ว่าโบรกเกอร์ไหนดีหรือไม่ดี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

รู้แต่ยังทำ! พฤติกรรมอันตรายที่พาคนส่วนใหญ่ขาดทุนในตลาดคริปโต
หลายคนเริ่มเทรดคริปโตเพราะเห็นคนอื่นรวย แต่สุดท้ายพอร์ตพังเพราะแพ้ใจตัวเอง ตลาดคริปโตไม่ใช่เกมโชค แต่เป็นสนามสอบวินัยและอารมณ์ 3 พฤติกรรมหลักที่ทำให้ขาดทุนคือ ซื้อบนยอดดอยเพราะ FOMO, ถัวเพิ่มโดยไม่มีกลยุทธ์ และขายขาดทุนตอนไม่ไหว การอยู่รอดในตลาดขึ้นอยู่กับการมีแผนชัดเจนและควบคุมตัวเองให้ได้

“เงาใหม่ของซาโตชิ?” ทฤษฎีล่าสุดชี้ว่า Daira Hopwood อาจคือผู้สร้าง Bitcoin ตัวจริง
กว่า 16 ปีหลังการเผยแพร่ไวท์เปเปอร์ Bitcoin ชื่อ Satoshi Nakamoto ยังคงเป็นปริศนา ล่าสุดมีทฤษฎีโยง Daira Emma Hopwood นักเข้ารหัสอังกฤษผู้ร่วมพัฒนา Zcash กับตัวตนของ Satoshi แม้เชื่อมโยงแนวคิดและช่วงเวลาการโพสต์ แต่ข้อเท็จจริงหลายจุดโต้แย้ง ทำให้เรื่องราวยังคงเป็น “เงาในตำนาน” ของโลกคริปโต ที่สิ่งสำคัญไม่ใช่ใคร แต่คือแนวคิดที่เปลี่ยนระบบการเงินโลก

"นายอาร์ม"แจงใจบางทำไม? เรียก Bitcoiner ว่า “Crypto Bros” ยันไม่ได้ดูถูก แค่เข้าใจคนละมุม
ดราม่าเดือดในวงการคริปโต เมื่อ “นายอาร์ม (9Arm)” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ออกมาขอโทษหลังถูกวิจารณ์จากการใช้คำว่า “Crypto Bros” เรียกกลุ่ม Bitcoiner ซึ่งถูกมองว่าเป็นคำดูถูก เจ้าตัวยืนยันไม่มีเจตนาเหยียด พร้อมตั้งคำถามว่า หากผู้ที่เข้าใจ Bitcoin ยังถูกต่อต้าน คนใหม่จะกล้าเรียนรู้หรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนความอ่อนไหวของคอมมูนิตี้คริปโต ที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์และอัตตา — และเป็นบทเรียนเรื่อง “การสื่อสารอย่างเข้าใจ” ในโลกดิจิทัล.

คริปโตลุกเป็นไฟ! เทขายกระหน่ำ 1.2 พันล้านดอลลาร์ พอร์ตนักเทรดแตกยับ
ตลาดคริปโตกลับมาระอุอีกครั้งเมื่อราคา Bitcoin ดิ่งแรงแตะ 105,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ส่งผลให้เกิด “คลื่นล้างพอร์ต” มูลค่ากว่า 1.16 พันล้านดอลลาร์ทั่วตลาด ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเดือน ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่าเพียงชั่วโมงแรกมีนักเทรดถูกล้างพอร์ตกว่า 191 ล้านดอลลาร์ โดยแพลตฟอร์ม Hyperliquid ได้รับผลกระทบมากที่สุดกว่า 240 ล้านดอลลาร์ แม้ BTC จะรีบาวด์กลับมาบริเวณ 106,400 ดอลลาร์ แต่แรงซื้อยังไม่หนาแน่นพอ ขณะที่ความหวังของ Altcoin Season ถูกสั่นคลอน เหลือเพียง ZCash (ZEC) ที่พอเคลื่อนไหวสวนตลาดได้เล็กน้อย
