简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ไฟดับที เงินหายทั้งเมือง!? ยูโรดิจิทัลยังไหวมั้ย ถ้าระบบล่มแบบนี้อีกซักรอบ?
บทคัดย่อ:เหตุการณ์ไฟฟ้าดับในสเปนและโปรตุเกสเผยให้เห็นจุดอ่อนของระบบการเงินดิจิทัล เมื่อทั้งการชำระเงิน อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์ล่มพร้อมกัน ทำให้ประชาชนเข้าถึงเงินไม่ได้ บทความนี้ตั้งคำถามถึงความพร้อมของยูโรดิจิทัลและระบบกลางในยามวิกฤต พร้อมชวนคิดเรื่องการกระจายความเสี่ยงในชีวิตจริง ไม่ใช่แค่ในพอร์ตลงทุน.

เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา...อยู่ดี ๆ ระบบไฟฟ้าใน “สเปน” และ “โปรตุเกส” ก็ล่มไปทั้งยวง ว่ากันว่าเป็นเหตุขัดข้องในเครือข่ายส่งไฟแรงสูง ทำเอาทั้งสองประเทศต้องเผชิญกับไฟดับวงกว้างไม่ทันได้ตั้งตัว
ทีนี้แหละ ความปั่นป่วนก็มาเยือน ไม่ใช่แค่ไฟไม่ติด แต่โทรศัพท์ก็ดับ อินเทอร์เน็ตก็ล่ม หลายเมืองถึงกับสื่อสารกันไม่ได้ และแน่นอน ระบบชำระเงินแบบดิจิทัลที่คนยุโรปพึ่งพากันแทบทั้งนั้น ก็พากันล่มไปด้วย
ร้านค้ารับจ่ายไม่ได้ ATM หยุดให้บริการ คนไม่มีเงินสด พูดตรง ๆ คือ “ติดอยู่กลางปัญหา”

แล้วถามว่าเกี่ยวอะไรกับ “ยูโรดิจิทัล”?
เกี่ยวสิ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้มันเหมือนเป็น “ซ้อมใหญ่” ให้เห็นภาพเลยว่า ถ้าวันหนึ่งยูโรดิจิทัลถูกนำมาใช้จริงแบบเต็มระบบ แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นซ้ำ... เราจะมีทางเลือกอะไร?
แอดเหยี่ยวขอเล่าตรง ๆ ว่า นี่แหละคือจุดอ่อนที่หลายฝ่ายตั้งคำถามมานาน — “ถ้าทุกอย่างไปพึ่งดิจิทัลหมด แล้ววันหนึ่งดิจิทัลล่ม เราจะอยู่กันยังไง?”
แถมในสเปนเองยังมีนโยบายจำกัดการใช้เงินสดไม่ให้เกิน 1,000 ยูโร/รายการอีกต่างหาก ทั้งที่ข้อมูลจาก ECB ระบุว่า ประชาชนยังใช้เงินสดอยู่ถึง 57%
ขณะที่ธนาคารกลางสวีเดนก็เคยเตือนแล้วว่า “ควรมีเงินสดติดบ้านไว้ให้ใช้ได้อย่างน้อย 1 สัปดาห์” เพื่อรับมือเหตุฉุกเฉินลักษณะนี้
ส่วนฝั่งยูโรดิจิทัลเองก็ยังไม่ได้รับความเชื่อมั่นเต็มร้อย เพราะมีประชาชนแค่ 45% เท่านั้นที่บอกว่ายินดีจะใช้งาน ที่เหลือก็ยังกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ความมั่นคง และการถูกควบคุมพฤติกรรมทางการเงิน
แล้วระบบแบบ Stablecoin หรือแม้แต่ CBDC จากประเทศอื่น ๆ ก็ไม่รอดจากความเสี่ยงนี้เช่นกัน

แอดเหยี่ยวว่า ถึงจะปลอดภัยแค่ไหน ถ้าไม่มีไฟ ไม่มีเน็ต สุดท้ายก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี
จะมีก็แต่ Bitcoin ที่ถึงแม้จะไม่เหมาะกับจ่ายค่าข้าวแกงในชีวิตประจำวัน แต่ข้อดีของมันคือ “อยู่รอดได้ในระบบที่ล่ม”
เพราะมันเก็บมูลค่าผ่าน Blockchain แบบกระจายศูนย์
แปลว่า ต่อให้ระบบล่มหมดทั้งเมือง แต่ตราบใดที่คุณยังมี private key อยู่ วันไหนไฟกลับมา — ของคุณก็ยังอยู่
สุดท้าย ไฟฟ้าในสองประเทศกลับมาแล้ว
แต่คำถามใหญ่ยังค้างอยู่: “โลกควรรีบวิ่งเข้าดิจิทัลหมดหรือเปล่า?”และ“ถ้าวันหนึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับระบบกลาง ระบบนั้นจะรับน้ำหนักไหวจริงหรือ?”
แอดเหยี่ยวฝากไว้ให้คิด — การกระจายความเสี่ยง ไม่ได้มีแค่ในพอร์ตลงทุน แต่มันสำคัญกับวิธีใช้ชีวิตด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก binance
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กขายเค้กสู่เศรษฐีฟอเร็กซ์ร้อยล้าน! เรื่องจริงที่สอนว่าความโลภมีราคา
Sandile Shezi เคยถูกยกย่องว่าเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดของแอฟริกาใต้ หลังสร้างชื่อจากการเทรด Forex ตั้งแต่อายุ 23 ปี แต่ความสำเร็จของเขาไม่ไร้ข้อวิพากษ์ เส้นทางชีวิตสะท้อนทั้งแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นศูนย์ และความเสี่ยงจากการบริหารเงินของผู้อื่น เรื่องราวของ Shezi เตือนนักลงทุนว่าการเทรดไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่ต้องอาศัยความรู้ วินัย และความรอบคอบ ไม่ให้ความโลภและภาพลวงนำทาง

กำไรหายไม่รู้ตัว! ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์มักมองข้าม
ค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของนักเทรด Forex อย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ค่า Swap ค่าฝาก–ถอน หรือค่าธรรมเนียมแฝง การเข้าใจโครงสร้างต้นทุนเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนกลยุทธ์ เลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด และป้องกันการสูญเสียกำไรโดยไม่จำเป็น นักเทรดมืออาชีพชนะตลาดไม่ใช่เพราะเดาทิศทางถูกเสมอ แต่เพราะบริหารต้นทุนได้อย่างชาญฉลาด

จากปี 2009 ถึงวันนี้! เส้นทางนักลงทุนบิตคอยน์ที่พลิกโลกการเงินทั้งใบ
ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุน Bitcoin ได้ผ่านวิวัฒนาการจากกลุ่มนักพัฒนาที่เชื่อในอุดมการณ์เงินดิจิทัล สู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงินระดับโลก ตลาด Bitcoin สอนบทเรียนสำคัญว่า การอยู่รอดในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้ขึ้นกับการเดาเร็ว แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความผันผวน การลงทุนด้วยศรัทธาคู่กับความรู้ และการควบคุมอารมณ์ นักลงทุนยุคใหม่ยังใช้เครื่องมือ AI และข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจ ทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่สะท้อนทั้งมูลค่าเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง
WikiFX โบรกเกอร์
EC Markets
Vantage
TMGM
AVATRADE
Plus500
VT Markets
EC Markets
Vantage
TMGM
AVATRADE
Plus500
VT Markets
WikiFX โบรกเกอร์
EC Markets
Vantage
TMGM
AVATRADE
Plus500
VT Markets
EC Markets
Vantage
TMGM
AVATRADE
Plus500
VT Markets

