简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ระวังให้ดี! แชร์ลูกโซ่ยุคใหม่ แค่แปะคำว่า ‘คริปโต’ ก็หลอกได้
บทคัดย่อ:บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.

ย้อนรอยคดีดัง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ใครล้ม ใครรอด ใครหนีหายไปพร้อมเงิน คริปโตเคอร์เรนซี่เคยถูกขนานนามว่าเป็น “อนาคตของการเงิน” ที่ใครไม่รู้จักก็เหมือนหลุดเทรนด์ แต่ในอีกด้าน มันกลับกลายเป็นสนามของนักต้มตุ๋นที่รู้จักวิธีห่มผ้าเทคโนโลยีให้กลิ่นหอมลวงใจ
แชร์ลูกโซ่ไม่ได้หายไปไหน มันแค่เปลี่ยนหน้า เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนกลยุทธ์ และใช้คำศัพท์ใหม่ ๆ ที่ฟังดูฉลาดเกินจะระแวง วันนี้แอดเหยี่ยวจะพาคุณไล่เรียงแชร์ลูกโซ่คริปโตที่โด่งดังที่สุดในโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมบทเรียนที่ไม่เคยเก่าเลยสำหรับคนในยุคนี้
BitConnect (2016–2018): ลงทุนวันละนิด ได้ผลตอบแทนวันละหนึ่งเปอร์เซ็นต์
BitConnect เริ่มจากคำสัญญาง่าย ๆ ว่า หากคุณลงทุน คุณจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยวันละ 1% จากระบบบอต AI ที่เทรดบิทคอยน์ให้คุณโดยอัตโนมัติ
ในปี 2017 เหรียญ BCC ของ BitConnect ขึ้นจากหลักสิบไปเกือบ 500 ดอลลาร์ สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลกคริปโต
แต่ในต้นปี 2018 ม่านลวงก็ถูกเปิดออก หน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศเริ่มตรวจสอบ และโปรเจกต์ก็ปิดตัวแบบสายฟ้าแลบ ผู้คนสูญเงินรวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในเวลาอันสั้น

OneCoin (2014–2017): ไม่มีบล็อกเชน แต่มีด็อกเตอร์เป็นแม่ทัพ
Dr. Ruja Ignatova สวมชุดสูทหรู ขึ้นเวทีทั่วโลก ประกาศว่า OneCoin จะมาโค่น Bitcoin
คนแห่ลงทุนจากทั่วโลกผ่านระบบการตลาดแบบเครือข่าย โดยไม่มีใครรู้เลยว่า OneCoin ไม่มีระบบบล็อกเชนใด ๆ อยู่เบื้องหลัง
ในปี 2017 ด็อกเตอร์หายตัวไปพร้อมเงินกว่าหลายพันล้านดอลลาร์ ทิ้งตำนานแชร์ลูกโซ่ที่โลกไม่มีวันลืม

PlusToken (2018–2019): กระเป๋าคริปโตที่ไม่มีใครถอนเงินได้
PlusToken มาในรูปแบบแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลจากจีนที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 30% ต่อเดือนจากการถือเหรียญ
ช่วงเวลานั้นแอปนี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในเอเชีย แต่ในปี 2019 เหรียญทั้งหมดในระบบหายไป นักลงทุนสูญเงินรวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ เหลือไว้เพียงบทเรียนว่าคริปโตไม่ใช่สิ่งที่แตะแล้วรวยเสมอไป

HashBX (2016–2017): ขุดไม่จริง แต่ดึงเงินจริง
โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยอ้างว่าจะเปิดศูนย์ขุดบิทคอยน์ขนาดใหญ่ในประเทศ
นักลงทุนซื้อแพ็กเกจขุดเหมืองด้วยความหวังว่าจะได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ แต่กลับเริ่มมีปัญหาการจ่ายเงิน และในที่สุดก็ถูกกล่าวหาว่าไม่มีการขุดจริง
HashBX ถูกตีตราว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ฉบับไทยแลนด์ และมีผู้เสียหายจำนวนมากทั้งในและนอกประเทศ

ICO ฟีเวอร์ (2017–2018): ระดมทุนเหรียญละเมอ
ปี 2017 คือยุคทองของการทำ ICO (Initial Coin Offering) ที่ใครมีไอเดียก็ตั้งโปรเจกต์เองได้
แต่สิ่งที่ตามมาคือการหลอกลวงระดับอุตสาหกรรม เช่น Pincoin จากเวียดนามที่หลอกไปกว่า 600 ล้านดอลลาร์ และ AriseBank จากอเมริกาที่อ้างจะเป็นธนาคารคริปโต
ในปี 2018 หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกต้องเร่งตั้งเกณฑ์ใหม่ เพราะ “ทุกคนออกเหรียญ แต่ไม่ใช่ทุกเหรียญมีอะไรอยู่ข้างใน”
Mirror Trading International (2019–2020): หุ่นยนต์เทรด หรือมนุษย์โกง
MTI จากแอฟริกาใต้เคลมว่าใช้หุ่นยนต์เทรดบิทคอยน์แทนนักลงทุน ผลตอบแทนสูงและเสถียร
แต่นักลงทุนทั่วโลกต้องช็อกเมื่อผู้ก่อตั้งหนีหายไปพร้อมกับ Bitcoin กว่าพันล้านดอลลาร์
นี่ไม่ใช่แค่การล้มเหลวทางธุรกิจ แต่คือการหายตัวไปพร้อมอนาคตของคนจำนวนมาก

WOToken (2018–2020): โอเพ่นแชต ปิดระบบ
อีกหนึ่งแชร์ลูกโซ่จากจีนที่อ้างว่าใช้ AI เทรดคริปโต โดยมีผู้ใช้งานกว่า 700,000 คนทั่วประเทศ
แต่ในที่สุดก็ถูกจับว่าไม่มีการเทรดจริง โปรเจกต์ล่มในปี 2020 พร้อมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

AirBit Club (2015–2020): แชร์ MLM ฉบับอินเตอร์
AirBit Club ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเครือข่ายในการขยายฐานนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในอเมริกาใต้
ทุกคนถูกล่อให้ซื้อ “แพ็กเกจรายได้แบบพาสซีฟ” โดยมีผลตอบแทนจากการชักชวนคนใหม่เข้า แต่ระบบก็ล่มในที่สุด
ผู้ก่อตั้งถูกจับกุมในปี 2020 และโปรเจกต์ถูกเปิดโปงว่าเป็นการหลอกลวงหลายร้อยล้านดอลลาร์

สรุป: คำสัญญาที่ฟังแล้ว “ดีเกินไป” มักจะเป็นกับดัก
ทุกโปรเจกต์ที่เล่ามามีจุดร่วมเดียวกันคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยใช้คำอ้างอิงจากเทคโนโลยีล้ำยุคมาทำให้ดูน่าเชื่อถือ
สิ่งที่นักลงทุนต้องจำขึ้นใจคือ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง และความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดคือ “ไม่รู้ว่ากำลังเสี่ยงอยู่”
แอดเหยี่ยวฝากเตือนอีกครั้งว่า อย่าหลงเชื่อใครง่าย ๆ อย่าเชื่อแค่หน้าเว็บไซต์สวย ๆ หรือคำพูดขายฝัน ต้องตรวจสอบให้ครบ ดูให้ลึก และคิดให้รอบก่อนควักเงินลงทุนในโลกที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยให้คุณได้
ขอบคุณข้อมูลจาก siamblockchain
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

จำผิดมานานหรือเปล่า? ความจริงของรหัส CFX ที่ควรรู้ก่อนทุกการเทรด
คำว่า CFX ไม่ใช่รหัสสกุลเงิน Forex แต่เป็นสัญลักษณ์ของเหรียญคริปโต Conflux (CFX) ซึ่งเทรดในตลาดคริปโตหรือ Crypto CFD การสับสนระหว่าง CFX กับคู่เงิน Forex อาจนำไปสู่การเปิดออเดอร์ผิดประเภท ประเมินความเสี่ยงผิด และวิเคราะห์กราฟผิดบริบท การเข้าใจประเภทสินทรัพย์ที่เทรดอยู่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริหารความเสี่ยงและทำกลยุทธ์เทรดให้แม่นยำ

บิดคอยหลุดแสน! เกิดอะไรขึ้นกับตลาดคริปโตต้นปี 2025 ทำไมนักลงทุนถึงหนีตาย?
ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2025 ราคาบิตคอยน์ร่วงแรงจาก 126,198 ดอลลาร์ต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ เหตุผลหลักมาจากความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายดอกเบี้ยสหรัฐฯ การไหลออกจาก Bitcoin ETF และแรงขายจากนักลงทุนรายใหญ่ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ การร่วงครั้งนี้อาจเป็นกระบวนการล้างเลเวอเรจเพื่อเตรียมรอบกระทิงครั้งต่อไป นักลงทุนควรโฟกัสภาพรวม ลดเลเวอเรจ และจับตาการไหลเข้า–ออกของตลาดเพื่อเตรียมรับโอกาสในรอบถัดไป

นักลงทุนคริปโตทุบขาย 148,000 เหรียญ วงแตกทั่วตลาด เสี่ยงหลุดแนวรับ 90,000 ดอลลาร์!
ตลาด Bitcoin เผชิญแรงขายรุนแรงจนราคาลงเหลือ 92,000 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนหน้าใหม่เป็นกลุ่มขายหลัก โดยมักขายด้วยอารมณ์มากกว่ากลยุทธ์ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นของการวางแผนและความอดทน การเทขายครั้งนี้อาจช่วยปรับฐานเชิงโครงสร้าง ทำให้เหรียญตกไปอยู่ในมือของนักลงทุนที่มีความอดทนสูงกว่า แนวรับสำคัญอยู่ราว 89,000–93,000 ดอลลาร์ การอยู่รอดในตลาดขึ้นอยู่กับการมองภาพระยะยาวและใช้ข้อมูล ไม่ใช่รีบตัดสินใจตามอารมณ์ชั่วคราว.

ใครคือ “อัจฉริยะวัย 19” ที่เขียนโค้ดเปลี่ยนโลกการเงิน? เรื่องราวของ Vitalik Buterin
เรื่องราวของ Vitalik Buterin เริ่มต้นจากเด็กเนิร์ดผู้สนใจคณิตศาสตร์และการเขียนโปรแกรม ก่อนจะค้นพบ Bitcoin ในวัย 17 ปีและเข้าสู่โลกบล็อกเชนอย่างจริงจัง เขาพัฒนาจากนักเขียนบทความสู่ผู้เสนอแนวคิด Ethereum และ Smart Contract ที่ปฏิวัติโลกคริปโต เปิดทางให้เกิด DeFi, NFT และ Web3 Vitalik โดดเด่นทั้งด้านเทคนิคและจริยธรรม โดยเชื่อว่าบล็อกเชนคือเครื่องมือสร้างความโปร่งใส ไม่ใช่เพียงการทำให้ใครรวยขึ้น เรื่องราวของเขาจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เทรดและนักลงทุนมองไกล เข้าใจระบบ และให้คุณค่ากับความรู้มากกว่าผลลัพธ์ระยะสั้น.
WikiFX โบรกเกอร์
IC Markets Global
FXCM
Plus500
Vantage
FOREX.com
TMGM
IC Markets Global
FXCM
Plus500
Vantage
FOREX.com
TMGM
WikiFX โบรกเกอร์
IC Markets Global
FXCM
Plus500
Vantage
FOREX.com
TMGM
IC Markets Global
FXCM
Plus500
Vantage
FOREX.com
TMGM
